ส่วนประกอบ (Components)

	ถั่งเช่า สมุนไพรชั้นยอดที่แพงที่สุดในโลก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง และเพิ่มสมรรถภาพ ทางเพศได้เป็นอย่างดี การกินเห็ดถั่งเช่าเข้าไป จะส่งผลให้มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศ เพิ่มขึ้น สรรพคุณ เสริมเสริมภูมิต้านทาน เพื่อต่อต้านการแพร่กระจายของ เชื้อโรค ไวรัส และแบคที่เรียชนิดไม่ดี ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ หลับลึก หลับสบาย ลดอาการอ่อนเพลีย สามารถเสริมสมรรถภาพการทำงานของปอด ฟื้นฟูอาการไตพร่อง และ ช่วยบำรุงตับ ช่วยปรับสมดุล หยิน-หยาง ในร่างกาย ทำให้แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย เสริมสร้างฮอร์โมนเพศชายให้มากขึ้นกระตุ้นสมรรถภาพการทำงานของต่อมหมวกไต เสริมสมรรถภาพ การทำงานที่ดีเยี่ยมของสมรรถภาพทางเพศให้แก่ชาย บรรเทาอาการที่ไม่สบายต่าง ๆ ที่เกิดจากสาเหตุวัยทอง วงการวิทยาศาสตร์การกีฬาได้ค้นคว้าพิสูจน์แล้วว่า “ถั่งเช่า” สามารถ เสริมคุณภาพร่างกายและพลัง การเคลื่อนไหวของนักกีฬาให้สูงขึ้น ชะลอความอ่อนล้าที่เกิดขึ้น ขจัดความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ก็ปราศจากสารต้องห้ามใด ๆ ของอาหารและยาไม่มีพิษหรือผลข้างเคียงใด ๆ ต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์ ที่สกัดจาก ถั่งเช่า ได้กลายเป็น “ยาวิเศษ” ที่ช่วยให้นักกีฬาให้มีประสิทธิภาพร่างกายสูงขึ้น สามารถช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โดยเฉพาะภูมิแพ้ โรคเรื้อรังของหลอดลม หลอดลม อักเสบเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง หอบหืดเนื่องจากโรคหลอดลม อย่างเด่นชัด ลดอาการภูมิแพ้ได้อย่างชัดเจน “ถั่งเช่า” สามารถผ่อนคลายอาการของผู้ป่วยที่ได้รับผลข้างเคียงอย่างมากจากการฉายรังสี และการ รักษาทางเคมี (เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการอื่น ๆ จากกระเพาะอาหารและลำไส้ รวมทั้ง ปริมาณของเซลล์เม็ดเลือดและสมรรถภาพร่างกายทรุดลง ฯลฯ) เป็นอาหารเสริมที่น่าพึงพอใจสำหรับ ผู้ป่วยที่รักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีและ การให้สารเคมี “ถั่งเช่า” สามารถป้องกันและซ่อมแซมการสึกหรอของเซลล์ที่เกิดจากการใช้ Ionizing radiation (การฉายรังสีแบบหนึ่ง) และสารเคมีที่มีพิษ เสริม Differentiation ของ Bone marrow stem cells (สเต็มเซลล์ เซลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูก) ในร่างกายและช่วยซ่อมแซมและสร้างเสริมเซลล์ในระบบ สืบพันธุ์ของเพศชาย ช่วยเสริมสร้างให้เซลล์ในร่างกายแข็งแรงและชลอกระบวนการแก่ชราของร่างกาย ลดปริมาณของไขมันที่ไม่ดีในเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดของโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ปรับรักษาสาเหตุต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดสมรรถภาพการทำงานของตับไม่ปกติและโรคเบาหวาน
	โสม สรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ยากระตุ้น ยาเร่งกำหนัด รักษาอาการทางประสาท อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ช่วยเพิ่มฮีโมโกลบินให้สูงขึ้น ลดคอเลสเตอรอล ขยายหลอดเลือดป้องกันเส้นเลือด อุดตัน ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมน ช่วยเสริมสร้างการ สร้างตัวอสุจิ และสร้างความแข็งแรงของอวัยวะสืบพันธุ์ สรรพคุณ บำรุงระบบไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิ ทำให้อสุจิแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี ช่วยเพิ่มพลังต้านความเมื่อยล้า ร่างกายปลดปล่อยพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพขณะทำงานหรือออกกำลังกาย โสมช่วยให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ขบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้นร่างกายจึงปลดปล่อยพลังงานได้มากขึ้น ร่างกายจึงเหน็ดเหนื่อยช้า มีความทนต่อการทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน เม็ดเลือดขาวมีอัตราการทำลายจุลินทรีย์และอนุภาคแปลกปลอมต่างๆเพิ่มขึ้น จำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อโรคจากเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อไวรัส เชื้อรา สารเคมีต่างๆ ต่อต้านโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดต่างๆได้ดี ช่วยคลายเครียดโดยเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆเพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาต่อต้านความเครียด เป็นสมุนไพรที่ชะลอความแก่ อนุมูลอิสระที่สลายตัวจากการเผาพลาญ จะเป็นตัวทำลายเนื้อเยื่อของ อวัยวะต่างๆ ให้เสื่อมสลายลง อันเป็นสาเหตุหนึ่งของความแก่ โสมสามารถทำลายอนุมูลอิสระของ ออกซิเจน ช่วยให้เนื้อเยื่อเสื่อมช้าลง ประกอบกับคุณสมบัติเป็นตัวปรับสภาพให้ร่างกายและจิตใจ มีความทนทานต่อความกดดัน ซึ่งช่วยลดขบวนการของความแก่ ดังนั้นโสมจึงช่วยให้ชะลอความแก่ลงได้ ช่วยลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน ในคนไข้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โสมทำให้ต่อมในตับอ่อนหลั่ง อินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิด อาการมึนชา ตามนิ้วมือนิ้วเท้า และการเกิดแผลเน่าเปื่อย ginsenoside ออกฤทธิ์คล้ายอินซูลิน จึงช่วยลดขนาดการใช้อินซูลินจากภายนอกในการรักษาคนไข้โรค เบาหวานได้ ช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศ โสมมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดีขึ้น สร้างเม็ดสีในเม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายทั้งจิตใจและกล้ามเนื้อ ผลจากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำนั้นมีอาการดีขึ้นเมื่อ ได้รับประทานโสม โสมสามารถทำให้เจริญอาหารมากขึ้น นอนหลับได้นานขึ้น หลับสนิทมากขึ้น อาการปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ บรรเทาลง แก้ปัญหาความดันโลหิตต่ำ ป้องกันอาการวิงเวียน ขับสารพิษ ทำความสะอาดโลหิตและหลอดเลือด ประโยชน์ของสารซาโปนิน เร่งการผลิตฮอร์โมนของไต ช่วยเพิ่มความต้านทานต่ออาการเครียด
	กระชายดำ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า โสมไทย ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเทสโทส เตอโรน ในเพศชาย ควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต แก้ปัญหาไส้เลื่อน ใช้เป็นยาอายุ วัฒนะ บำรุงกำลัง ทำให้กระปรี้กระเปร่า และใช้บำบัดโรคกามตายด้าน ทำให้กระชุ่ม กระชวย มีกำลัง เสริมสมรรถทาพทางเพศอย่างเห็นได้ชัด สรรพคุณ บำรุงฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ชายเหนือชาย กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่ ขับลม ขับปัสสาวะ แก้โรคกระเพาะอาหาร ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา บำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
	สารสกัดจากพืชตระกูลส้ม สารสกัดพืชตระกูลส้ม อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) วิตามินบี วิตามินดี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และคอลลาเจน ช่วยรักษาเลือดออกตามไรฟัน ช่วยล้างสารพิษในร่างกายด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ พืชผลในตระกูลส้ม จะมีสารไฟโตนิวเทรียนต์มากมาย ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็ว และแผลเรียบเนียนขึ้น สรรพคุณ • ส้ม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย จึงช่วยในการชะลอวัย • ส้ม มีคุณสมบัติในการช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ช่วยลดเลือนหรือชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ • ส้ม ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสOrange_fruit_Extract3.jpg • ส้ม ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน • ส้ม ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก • ส้ม ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง • ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบและเลือดจับตัวกันเป็นก้อน • ส้ม มีสารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยชะลอความเสื่อมเส้นผม เล็บ และผิว
	ใบแปะก๊วย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคมะเร็ง อีกทั้งยังชะลอความแก่ได้ด้วย ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เพิ่มการไหลเวียน ของเลือดไปยังสมอง จึงทำให้ความสามารถในการทำงานและตัดสินใจดี ช่วยกระตุ้น การไหลเวียนของเลือด ทำให้สูบฉีดไปยังผิวหนังได้ดี มีฤทธิ์ช่วยให้ความจำดีขึ้น ยับยั้งความเสื่อมของสมอง
	แอล-อาร์จินีน เป็นสารต้้งต้นในการสร้างไนตริกอ๊อกไซด์ ซึ่งมีผลให้หลอดเลือด ขยายตัว ส่งผลให้เซลล์ในส่วนต่างๆของร่างกายได้รับออกซิเจนจากเลือดได้มากขึ้น จึงช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง โดยเฉพาะสุขภาพทางเพศสำหรับท่านชาย ช่วย แก้ปัญหาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย กระตุ้น การผลิตโกร๊ทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการคงความเป็นหนุ่มสาว
	แอลคาร์นิทีน แอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ โดยมีการสังเคราะห์จากกรดอะมิโน 2 ชนิดคือ Lysine และ Methionine พร้อมกับอาศัยตัวเร่งให้เกิดการสังเคราะห์ ได้แก่ Niacin วิตามิน B6 C และธาตุเหล็ก โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ ซึ่งหน้าที่ ของแอล-คาร์เนทีน จะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆเข้าไปในโรงงานผลิตพลังงานระดับเซลล์ของเรา (คือไมโตคอนเดีย) ทำให้ไขมันแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน ดังนั้นหากร่างกายขาดสาร Carnitine หรือมีไม่เพียงพอที่จะเป็นตัวพาเม็ดไขมันไปเผาผลาญแล้วละก็ ปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากไขมันสะสมก็จะเป็นเรื่องตามมาที่สามารถส่งผลเสีย ต่อร่างกายของคุณอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความอ้วน และการสะสมของไขมันตามหลอดเลือด ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และนำมาซึ่งปัญหาไขมันในเลือดสูงและมีความดันโลหิตสูงตามมาได้ นอกจากนี้ ยังอาจจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขนขา อ่อนเพลีย ซึมและเหนื่อยง่าย สรรพคุณ -คาร์นิทีนทำให้แก่ช้าลง ในเหตุผลแรกนี้ก็ชวนให้เราหลงใหลใคร่อยากกินคาร์นิทีนกันแล้ว ที่คาร์นิทีนทำให้แก่ช้าลงก็เพราะเหตุผลที่ว่าเซลล์ในร่างกายทุกๆ เซลล์ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์สมอง เซลล์จากระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์จากหัวใจ หรือเซลล์จากที่อื่นๆ ของร่างกายทั้งหมดจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อได้รับพลังงานเพียงพอ และเหมาะสมกับความต้องการของเซลล์แต่ละชนิด และคาร์นิทีนนี่เองทำให้เซลล์มีอายุยืนนานขึ้น -คาร์นิทีนทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (triglycerides) อยู่ในระดับต่ำ และช่วยเพิ่มระดับคอเรสเตอรอลที่มีประโยชน์ (HDL-คอเรสเตอรอล) ในเลือด -คาร์นีทีนช่วยป้องกันโรคหัวใจโดยมีผลทำให้สุขภาพโดยรวมของหัวใจดีขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวด้วย (1/3 ของสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโรคหัวใจตาย) -คาร์นีทีนช่วยให้น้ำหนักลด โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับวิธีการที่เราลดอาหารจำพวกแป้งลงในอาหารแต่ละมื้อ -คาร์นีทีนช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดความเสียหายใดๆ กับร่างกายเหมือนกับที่พบในสารสกัดจากพืชสกุล Ephedra -คาร์นิทีนช่วยให้ความสามารถในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น มีความทนทานมากขึ้น และป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากปริมาณออกซิเจนในเซลล์ไม่เพียงพอ -คาร์นิทีนและ อะซีทีล-แอล-คาร์นีทีน (Acetyl-L-carnitine) ทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น -อะซีทีล-แอล-คาร์นีทีนช่วยลดความเสียหายของเซลล์ประสาท อันเนื่องมาจากความเครียด และอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ แต่ได้ผลเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย ทำให้อาการของโรคไม่เป็นไปมากกว่านี้ -อะซีทีล-แอล-คาร์นีทีน มีผลต่อสุขภาพจิตในทางบวก และลดภาวะความเครียด -คาร์นิทีนช่วยในการทำงานของตับ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคนเรา
	สารสกัดจากเปลือกสน สารสกัดจากเปลือกสน (Pine Bark Extract) ในที่นี้หมายถึง เปลือกของต้นสนมาริไทม์ในประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidation) เเละยังเสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามิน C เเละวิตามิน E ช่วยป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา รวมทั้งปัจจัยภายนอกต่างๆ อันเป็น สาเหตุของความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น หลอดเลือด หัวใจ ดวงตา ผิวหนัง รวมไปถึงระบบประสาท เป็นต้น